...............................................................................................
เคยมีคำถามเกิดขึ้นในใจเมื่อเราทำบ่อปลา มีสิ่งที่เรียกว่าวัสดุกรอง มันคืออะไร มันทำหน้าที่อะไร ในหัวข้อ
"ทำไม ในระบบการทำตู้ปลาหรือบ่อต้องมีวัสดุกรอง"
- วัสดุกรองของเรานั้น แบ่งง่ายๆ เป็น 2 ประเภท 1.เพื่อทำให้น้ำมีความใส 2.เพื่อควบคุมและขจัดของเสียบางส่วนในน้ำ โดยทั้งสองประเภทมีความเกี่ยวข้องกันอยู่
- ประเภทแรก จะเป็นจำพวก ใยแก้ว ใยหยาบ ใยละเอียด ฯลฯ เป็นการกรองตามที่เราเข้าใจกันครับ คือ จะกรองตะกอน เศษผง หรืออะไรก็ตามที่มีขนาดใหญ่กว่าวัสดุกรองนั้นๆ ยิ่งเราอยากให้น้ำใสมาก ก็ยิ่งต้องใช้วัสดุกรองที่มีความละเอียดมาก แต่ก็ต้องแลกกลับการที่จะต้องเปลี่ยนหรือทำความสะอาดวัสดุกรองบ่อยขึ้น
- นอกจากนี้ก็ยังมีแบบที่เป็นกรองสำเร็จรูปเพื่อให้ง่ายต่อการดูแล เช่น ถังกรองทราย ถังกรองผ้า ถังกรองกระดาษ เป็นต้น โดยถ้าเป็นการใช้เลี้ยงปลาถังทรายจะเหมาะที่สุด ส่วนอีก 2 ชนิดข้างต้น จะเหมาะกับสระว่ายน้ำมากกว่า
- ประเภทที่สอง ที่นิยมในท้องตลาด ก็ได้แก่หินปะการัง หินภูเขาไฟ หรือ ถ้าทันสมัยหน่อยก็จะเป็น พวกวัสดุสังเคราะห์ โดยลักษณะที่สำคัญของวัสดุกรองประเภทนี้ คือ ต้องพื้นที่หน้าตัดเยอะ เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า วัสดุเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะมีผิวที่ขรุขระ หรือ จะมีรูพรุน
- เหตุที่จำเป็นจะต้องมีพื้นที่หน้าตัดเยอะ เพราะแบคทีเรียที่คอยกินของเสียแอมโมเนีย จะเกาะอาศัยอยู่ตามพื้นผิวเหล่านี้ ยิ่งพื้นผิวมาก = แบคทีเรียมาก = สามารถนำของเสียออกจากระบบได้มาก
- โดยของเสียเหล่านี้มีส่วนประกอบของไนโตรเจน ซึ่งเป็นอาหารหลักในการเจริญเติบโตของพืช ซึ่งก็คือตะไคร่เนี่ยแหละครับ
- นอกจากนี้การที่ทำให้ แอมโมเนียลดยังช่วยที่จะควบคุมค่า pH ของน้ำให้มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงไม่มาก(เสถียรขึ้น)
สรุป:
- วัสดุกรองประเภทที่1 จะเป็นการกรองแบบขวานผ่าซาก ต้องเปลี่ยนเรื่อยๆ แต่ก็จำเป็นเพื่อที่จะรักษาความใสของน้ำ
- วัสดุกรองประเภทที่2 เป็นการกรองทางชีวภาพ แต่ก็สามารถขจัดของเสียได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น
- เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นจะต้องมีวัสดุทั้ง 2 ประเภท ในการทำระบบการเลี้ยงปลา
วศิน กฤษณะพันธ์
Aquatica co ltd