Unbroader

Unbroader
ตู้ปลา

Friday, May 23, 2014

24 MAY 2014 - - "ทำไมปลาที่เราเลี้ยงเมื่อระบบหยุดถึงตาย และมักจะตายในช่วงเช้ามืด ?"



เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนที่เพิ่งจะเริ่มเลี้ยงปลา หรือ ที่เลี้ยงมานานแล้ว จะต้องมีปัญหาหรือปวดหัวกับการจัดการคุณภาพของน้ำ (Water Quality Management) ซึ่งเป็นศาสตร์ที่ต้องเรียนรู้อย่างไม่มีวันจบทั้งทางภาคทฤษฏีและปฎิบัติ เพราะฉะนั้นเราค่อยๆมาเรียนรู้การจัดการเหล่าไปพร้อมๆกัน เพื่อที่จะให้ตู้หรือบ่อปลาของเรา มีปลาที่แข็งแรงและสมบูรณ์มากขึ้นกันดีกว่านะครับ

...............................................................................................


วันนี้ขอประเดิมด้วยเรื่อง ของคาร์บอนไดออกไซด์ และ ค่า pH นะครับในหัวข้อ
"ทำไมปลาที่เราเลี้ยงเมื่อระบบหยุดถึงตาย และมักจะตายในช่วงเช้ามืด ?"

- ค่า pH เป็นค่าที่ ถูกตั้งขึ้นเพื่อใช้ ให้ง่ายต่อการวัดความเป็นกรดเป็นด่าง ไม่ได้มีความสำคัญในตัวเอง

- ในช่วงกลางวันเมื่อมีพลังงานจากแสงแดดทำให้พืชในน้ำ สังเคราะห์แสงและคายออกซิเจนออกมา ทำให้น้ำช่วงกลางวันจึงมีอ๊อกซิเจนมาก

- ในทางกลับกัน เมื่อถึงเวลากลางคืนพืชจะไม่สามารถสังเคราะห์แสง อีกทั้งจะคายคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาแทน และเมื่อเกิดการรวมตัวของคาร์บอนไดออกไซด์กับน้ำ ทำให้เกิดกรดคาร์บอนิก ซึ่ง ภายหลังจะแตกตัวเป็น ไฮโดรเจนที่มีประจุบวก(ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ค่า pH ต่ำ)

- การวัดในทางการวิจัยจะวัดค่าน้ำ ในช่วงเช้ามืด(ตี 5) และ กลางวัน (บ่ายโมง) เพื่อที่จะได้ค่า pH ที่ต่ำสุด และ สูงสุดของแต่ละวัน

- ในน้ำฝนมีคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณที่มากกว่าในน้ำปกติ การตกของฝนทำให้ค่า pH ตกเช่นเดียวกัน จึงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

สรุป :
- คาร์บอนออกไซด์ ถ้ามีปริมาณมากเกินไปสามารถเป็นสาเหตุให้ปลาตายได้ แต่โดยส่วนมากถ้าระบบของบ่อปลาทำงานปกติ ก็ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงเพราะการหวุนเวียนของน้ำจะทำให้เกิดปริมาณอ๊อกซิเจนที่มากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์อยู่แล้ว

-จำนวนของปลาก็เป็นปัจจัยด้วยส่วนหนึ่งในการแย่งออกซิเจนกันหายใจ

- เราสามารถวัดค่า pH ในกรณีเมื่อระบบเกิดหยุดหรือชำรุดเพื่อเตรียมตัวป้องกัน (ในกรณีที่ pH ลดต่ำลง)โดยใช้เครื่องปั๊มลมซึ่งหาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์ตู้ปลาทั่วไป

- ค่า pH มาตรฐานที่เหมาะสมในการเลี้ยงปลาอยู่ 6.5 - 9.0

- ที่ต้องพูดถึงค่า pH เพราะจะเป็นที่เชื่อมโยงกับ สิ่งอื่นๆที่จำเป็นต้องใช้ในการจัดการคุณภาพของน้ำ โดยจะถูกพูดในครั้งต่อๆไปด้วย


วศิน กฤษณะพันธ์










No comments:

Post a Comment